นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ร่วมกับกระทรวงการคลัง จัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยช่วงแรกจะจัดมหกรรมออนไลน์ เปิดลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.-30 พ.ย.65 ครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล เช่าซื้อรถยนต์ จำนำทะเบียนรถ และทุกสินเชื่อของธนาคารของรัฐ รวมเจ้าหนี้ 56 แห่ง และช่วงที่สอง จะมีมหกรรมสัญจร ตั้งแต่เดือน พ.ย.65-ม.ค.66 แก้หนี้ลูกหนี้ธนาคารของรัฐทั่วประเทศ เช่น แก้หนี้เดิม เสริมทักษะทางการเงิน และเติมเงินใหม่หากจำเป็นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน เริ่มจากการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม โดยลดภาระให้สอดคล้องกับรายได้ แก้ไขหนี้เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลูกหนี้สถาบันการเงิน ลูกหนี้เช่าซื้อ ลูกหนี้ข้าราชการ ลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล รวมทั้งผู้ท่เจอปัญหากรเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ด้านขั้นตอนที่ 2 เป็นการสร้างรายได้ เพื่อลดปัญหาหนี้ครัวเรือนระยะยาว เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รี-โอเพ่น ธุรกิจโรงแรมและซัพพลาย เชนโรงแรม ให้สินเชื่อปรับปรุงธุรกิจดอกเบี้ย 1.99% ใน 2 ปีแรก ระบะเวลากู้ 7 ปี, โครงการสินเชื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย ให้สินเชื่อเอสเอ็มอีท่องเที่ยว ดอกเบี้ย 3.99% ระยะเวลากู้ 7 ปี
ส่วนประชาชนทั่วไป โครงการสร้างอาชีพ ผู้ที่ตกงานเข้าอบรมอาชีพและให้สินเชื่อดอกเบี้ย 3.99% ระยะเวลา 5 ปี, สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ นาโนไฟแนนซ์ และกลุ่มเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชน มีโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทยให้สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนกาผลิตพัฒนา การตลาด ดอกเบี้ย 0.01% ระยะเวลากู้ 3 ปี
ขณะที่ขั้นตอน 3 สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยการสร้างทักษาะทางการเงิน โดยปลูกฝังความรู้ทางการเงินตั้งแต่เด็กและเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัยตั้งแต่กลุ่มเด็กและเยาวชนจนถึงผู้สูงอายุ, แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินปี 65-70, ให้ธนาคารของรัฐส่งเสริมความรู้ทางการเงินและทักษะการประกอบอาชีพให้แก่ลูกค้าของตนเอง และผู้กู้ยืมกองทุน กยศ.กำหนดให้ผ่านหลักสูตรพัฒนาทักษะทางการเงินภาคบังคับ
น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธปท. กล่าวว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย เพิ่มขึ้นมากจากสิ้นปี 62 ก่อนโควิด อยู่ที่ 80% มาอยู่ที่ 90% ในสิ้นปี 63 หรือเพิ่มขึ้น 10% เพียงแค่ 1 ปี แต่ 2 ใน 3 มาจากจีดีพีลดลงกว่า 7% และ 1 ใน 3 หนี้ที่เพิ่มมาจากการพักหนี้เก่าและขอสินเชื่อเพื่อรักษาสภาพคล่อง โดยปัญหาหนี้ครัวเรือนเกิดจาก 1 ใน 4 ของครัวเรือนมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ใช้จ่ายเกินตัว โดนหลอก สถาบันการเงินกระตุ้นก่อหนี้ และ 4 ใน 5 ของปัญหามาจากการเสนอขายผลิตภัณฑ์สินเชื่อ รวมถึงเป็นหนี้แล้วปิดไม่ได้ ลูกหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดชำระหนี้แต่ขั้นต่ำ ที่สำคัญเป็นหนี้แล้วไม่มีทางแก้ไข 1 ใน 3 ของลูกหนี้ในคดียึดทรัพย์ ไม่สามารถปิดหนี้ได้คำพูดจาก เกมสล็อต
สำหรับความคืบหน้าการแก้หนี้เดิม ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว โดยลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ และนอนแบงก์ ณ สิ้นเดือน พ.ค.65 ให้ความช่วยเหลือ 3.84 ล้านบัญชี คิดเป็น 2.9 ล้านล้านบาท, ลูกหนี้ กยศ. ได้รับผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ 340,000 ราย, ลูกหนี้ครูช่วยเหลือผ่านโครงการสร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทยกว่า 41,000 ราย และลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้กว่า 87,000 ราย ส่วนมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ณ วันที่ 22 ส.ค.65 มีเอสเอ็มอีช่วยเหลือ 133,245 ราย คิดเป็น 324,989 ล้านบาท และให้คำปรึกษาผ่านหมอหนี้เพื่อประชาชนกว่า 4,500 ราย.